ร็อดเจอร์ส ซูฮก “วาร์ดี้” ชี้ คล้ายแข้งระดับโลกรายหนึ่งที่เคยร่วมงานด้วย!

ร็อดเจอร์ส ซูฮก “วาร์ดี้”

          ร็อดเจอร์ส (Brendan Rodgers) ผู้จัดการทีมของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงยกย่อง “เจมี่ วาร์ดี้” กองหน้าตัวเก่งขอทีมว่า มีความคล้ายกับอดีตลูกทีมรายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านการถล่มประตู อิทธิพลภายในทีม รวมถึงความเป็นมืออาชีพ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผลงานของทีมในซีซันนี้ดีวันดีคืน ร็อดเจอร์ส ชี้ วาร์ดี้ คล้ายกับ “หลุยส์ ซัวเรซ” สมัยที่คุม ลิเวอร์พูล             โดย ร็อดเจอร์ส กุนซือมากประสบการณ์ของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวยกย่อง “เจมี่ วาร์ดี้” หัวหอกคนสำคัญของตนที่ซีซันนี้ทำไปแล้วถึง 10 ประตูจากการลงเล่นในลีก 11 นัด ว่า มีความคล้ายกับ “หลุยส์ ซัวเรซ” กองหน้าระดับโลกของสโมสร แอตเลติโก้ มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลิกา ที่เจ้าตัวเคยร่วมงานด้วยสมัยเป็นกุนซือของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล …

ร็อดเจอร์ส สุดแฮปปี้ หลัง “จิ้งจอก” ไล่เจ๊า “บราก้า” ตีตั๋วเข้ารอบถ้วยเล็กยุโรป

ร็อดเจอร์ส สุดแฮปปี้ หลัง “จิ้งจอก” ไล่เจ๊า บราก้า

            ร็อดเจอร์ส (Brandon Rogers) กุนซือของ “จิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความพอใจหลังลูกทีมรวมพลังไล่ตีเสมอช่วงนาทีสุดท้ายในเกม ยูโรปา ลีก ที่บุกไปเสมอ บราก้า 3-3 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎษคม ที่ผ่านมา โดยกุนซือไอริชออกมากล่าวชมลูกทีมที่ไม่ยอมแพ้ จนพาทีมเข้ารอบในที่สุด ร็อดเจอร์ส ชี้ “ยูริ เตเลม็องส์” กับ “เจมส์ แมดดินสัน” คือหัวใจในแดนกลาง             ผู้จัดการทีมของ เลสเตอร์ ซิตี้ ร็อดเจอร์สทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในเกม ยูโรปา ลีก ที่บุกไปเสมอ บราก้า ทีมดังจากลีกโปรตุเกสถึงถิ่น 3-3 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎษคม ที่ผ่านมา โดยในเกมดังกล่าว ทั้งสองทีมต่างผลัดกันบุกจนสามารถทำประตูเสมอกันอยู่ที่ 2-2 จนกระทั่งในนาทีที่ 90 ฝ่ายเจ้าบ้านได้ประตูขึ้นนำ 3-2  อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนกลับสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการทำประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่สุดของ “เจมี่ …

เนวิลล์ อวย “ร็อดเจอร์ส” กุนซือระดับเดียวกับคล็อปป์-เป๊ป

เนวิลล์ อวย "ร็อดเจอร์ส"

แกรี่ เนวิลล์ อดีตแข้งของแมนยูยกย่องเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดในลีกร่วมกับเจอร์เก้น คล็อปป์และเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของเลสเตอร์ซิตี้พาสุนัขจิ้งจอกขึ้นสู่จุดสูงสุดของพรีเมียร์ลีกหลังจากแปดเกมแรกของฤดูกาล ซิตี้ยังชนะทั้งสามเกมในกลุ่มยูโรป้าลีกจนถึงตอนนี้ เลสเตอร์เตรียมตัวลงสนามแข่งกับลิเวอร์พูล โดยในเวลานี้พวกเขานำเป็นจ่าฝูงของตารางพรีเมียร์ลีก และกุนซือแบรนดอน ร็อดเจอร์สมีคิวนำทีมลงสนามพบทีมเก่าหงส์แดง หลังจากชนะทั้งแมนซิตี้ และอาร์เซนอลในฤดูกาลนี้เนวิลล์กล่าวว่าเลสเตอร์จะเป็นทีมที่ลิเวอร์พูลยากต่อการเอาชนะแน่นอน เนวิลล์กล่าวว่าเลสเตอร์จะเล่นเกมแบบอึดอัดแน่นอน พวกเขาทำหลาย ๆ อย่างได้ดีมากมีประสิทธิภาพมีโค้ชที่ดี พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้วได้ดี แต่ว่าดันไปพลาดช่วงสุดท้าย เนวิลล์กล่าวว่าตอนนี้ร็อดเจอร์สได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก มันเป็นผลงานที่โดดเด่นจากเบรนแดน ร็อดเจอร์ส ซึ่งทีมเดอะ ฟ๊อกซ์ชนะวูลฟ์ได้อย่างไม่ยากเย็น มันพิสูจน์ให้เห็นว่ามันไม่น่าแปลกใจเลยในฤดูกาลเดียวตอนนี้มีความต่อเนื่องและเขาเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่โดดเด่นในลีกเบรนแดน ร็อดเจอร์ส เราพูดถึงโค้ชชาวอังกฤษไม่ได้อยู่ในระดับคล็อปป์ หรือเป๊ป หรือโชเซ่ แต่จริงๆแล้วเบรนแดน ร็อดเจอร์สจบอันดับสองกับลิเวอร์พูลทำในสิ่งที่เขาทำกับเลสเตอร์และอยู่ที่นั่นจริงๆ “ร็อดเจอร์ส” รับหน้าที่ในคิงเพาเวอร์สเตเดียมตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ทำให้ซิตี้จบการแข่งขันในอันดับที่ 5 เมื่อฤดูกาลที่แล้วซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดนับตั้งแต่คว้าแชมป์ในปี 2016 เวสลี่ย์ โฟฟาน่าถูกเปรียบกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ โฟฟาน่าลงเล่นในสนามตั้งแต่มาถึงคิงเพาเวอร์สเตเดียมจากแซงต์เอเตียนในช่วงฤดูร้อนโดยเตะตาดีนีย์ปรากฏตัว 7 นัดโดยไม่มีคักลาร์ โซยุนกู แข้งทีมชาติตุรกี โฟฟาน่าอายุ 19 ได้ย้ายมาเล่นกับเลสเตอร์ในพรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ว่าเฟอร์จิล ฟาน …

“ร็อดเจอร์ส” ชี้สมัยคุม หงส์แดง พลาดถ้วยแชมป์เหตุแนวรับขาดความแกร่ง

ร็อดเจอร์ส

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือใหญ่ของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ แล้วออกมาเปิดเผยว่าสมัยที่ตนยังคุมทัพให้แก่ทีมหงส์แดงในช่วงปี 2013-2014 มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่ทีมจะได้ถ้วยแชมป์แต่ก็ต้องพลาดไปเสียก่อน เหตุเพราะแนวรับหลังบ้านยังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอเชื่อว่าหากในสมัยนั้นตนได้นักเตะอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังสุดแกร่งมาเป็นกำแพงบ้านทีมคงกวาดถ้วยแชมป์แบบไม่มีหยุด สื่อข่าวต่างประเทศรายงาน  “ร็อดเจอร์ส” กุนซือใหญ่ของทีม จิ้งจอกสีน้ำเงิน สโมสรที่มีชื่อเสียงในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ออกมาเผยว่าเหตุที่ทีมลิเวอร์พูลสามารถทำแชมป์ได้ในฤดูกาลนี้เป็นเพราะว่ามีผลงานการเล่นที่คงเส้นคงวา แตกต่างจากสมัยที่ตนคุมทัพเป็นอย่างมากที่มีแนวรับอย่างสุดโหดแต่กลับมีแนวรับที่เปราะบาง แต่ถ้าหากในสมัยนั้นต้นมีนักเตะแผงหลังคนเก่งอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ถ้วยแชมป์คงอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือเช่นกัน ย้อนไปในปี 2013 ทีมเกือบจะคว้าถ้วยแชมป์ได้สำเร็จแต่สุดท้ายก็ต้องสะดุดและโดนปาดหน้าจากทีมเรือใบสีฟ้าไปในที่สุดแล้วพลาดโอกาสทำแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย  “หากมองย้อนกลับไปในตอนนั้นที่ผมมีโอกาสได้คุมทีมเรามีนักเตะกองหน้าที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ผมสามารถพาทีมเก็บสามแต้มคะแนนได้ยังไม่หยุดแต่เราก็ต้องเสียสามแต้มคะแนนคืนกลับไปอีกเช่นกัน เป็นเพราะว่าแนวรับของทีมยังมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ หากผมมี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ยังไงผมก็สามารถทำแชมป์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งสูงมากที่สุดในลีกผู้ดี และการที่ทีมประสบความสำเร็จในวันนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเลยทีเดียว” กุนซือใหญ่ กล่าว หากไม่อยากพลาด เว็บพรีวิวฟุตบอล ข่าวสารฟุตบอล ต้องติดตามเว็บไซต์ของเรายังมีเรื่องราวข่าวฟุตบอลอีกมากมาย เรือใบใกล้ซิว “เมสซี่” แต่บาร์ซ่าต้องการ 250 ลป.ถึงยอมปล่อย “เดอปาย” เปิดอกพร้อมลา ลียง ไปลงย่านบาร์ซ่าซัมเมอร์นี้ “เดอปาย” ถูกจับโยงไปที่บาร์ซ่าหลังการมาถึงของกุนซือใหม่ “คูมัน”

ปีศาจแดง แมนยู พร้อมจ่าย 60 ลป ล่า “ชิลเวลล์” จากเลสเตอร์

แมนยู

ปีศาจแดง แมนยู เดินหน้าเพื่อลุยต่อในการแข่งขันฟุตบอลฤดูกาลหน้า เมื่อเล็งไปที่เบน ชิลเวลล์ ของเลสเตอร์แต่ว่าไม่ใช่งานง่ายเพราะต้องแย่งกับอีกสองทีมคือ แมนซิตี้และเชลซี เช่นกัน นักเตะวัย 23 ปีรายนี้ได้ลงสนาม 33 เกมให้เลสเตอร์ และเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมสุนัขจิ้งจอกเลสเตอร์เลย แต่ว่าเวลานี้ชิลเวลล์ยังต้องพาทีมผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลแชมเปปี้ยนส์ลีกให้ได้ก่อน และเขาติดทีมชาติอังกฤษไปแล้วกว่า 11 เกมและนักเตะอย่างชิลเวลล์เขามีอนาคตที่ยิ่งใหญ่รออยู่ข้างหน้าต้องรอดูว่าสโมสรเลสเตอร์จะเอาอย่างไรและคาดหมายว่าคงจะรั้งตัวนักเตะรายนี้ไม่อยู่แล้วจริงๆ โดยมีทีมในประเทศที่ต้องการตัวเขามากมาย หรือว่าเขาจะอยู่ที่คิงพาวเวอร์สเตเดี้ยมต่อ จากการเปิดเผยของเดอะซันรายงานว่าการย้ายทีมของเบน ชิลเวลล์น่าจะมีค่าตัวในการย้ายทีมอยู่ที่ 60 ล้านปอนด์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าแดนมิดฟิลด์ของแมนยูที่มีอยู่แล้วมากมายแต่ว่าโอเล่ กุนนาร์ โซลชาจะมาเสียเงินเพื่อซื้อนักเตะแบ๊กซ้ายอีกทำไม หรือว่าเขาจะหาตัวแทนของลุค ชอว์ที่เขาไม่อยากจะเอาไว้กับทีมแล้ว ส่วนลูกทีมของแบรนดอน ร็อดเจอร์สอย่างเบน ชิลเวลล์เขาได้ลงสนามไปแล้วกว่า 29 เกมในฤดูกาลแข่งขันนี้ หาก แมนยู ซื้อตัว “ชิลเวลล์” มาแพง คงไม่ได้ย้ายมานั่งข้างสนามแน่ ท่ามกลางกระแสข่าวลือมากมายว่าเขาจะเอามาแทนที่ของลุค ชอว์ที่ดูเหมือนไม่มีอนาคตในทีมและการซื้อตัวชิลเวลล์มาด้วยค่าตัวที่แพงแสนแพงเขาไม่ได้ย้ายมานั่งข้างสนามแน่ ต้องย้ายมาเล่นแบบเป็นตัวจริงเท่านั้น ในทางกลับกันเมื่อเขาย้ายไปเล่นที่แมนซิตี้หรือว่าเชลซี เขาต้องไปเจอกับเบนจามิน เมนดี้ หรือเอเมอร์สัน ปาลมิเอรี่ที่ดูแล้วน่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่าเมื่อย้ายไปที่สองสโมสรแห่งนั้น หรือเป็นเพราะแมนยูมีเงินมากมายและต้องการจะเสริมความแข็งแกร่งให้ทีมแต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อผู้เล่นคนไหนเข้ามารวมทีมอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องดูก่อนด้วยว่าแมนยูจะเสริมทีมได้อย่างถูกจุดหรือไม่ หากว่าแมนยูเสริมทีมได้ดีก็มีโอกาสที่เกมรับจะเหนียวแน่นมากขึ้นไปอีก และจะเป็นทีมที่น่ากลัวในอนาคตเพราะว่าเกมรุกของพวกเขานั้นยอดเยี่ยมอยู่แล้ว เกมต่อไปของแมนยูจะเปิดบ้านรับมือเซาแธมป์ตันวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ …

วิเคราะห์ : ‘4 สโมสร’ ที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิง ‘ท็อป 6’ ในฤดูกาลหน้าของศึกพรีเมียร์ลีก

4 สโมสร

วิเคราะห์ : ‘4 สโมสร’ ที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิง ‘ท็อป 6’ ในฤดูกาลหน้าของศึกพรีเมียร์ลีก ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ‘ท็อป 4’ คือวลีที่เอาไว้เรียก 4 สโมสร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อันประกอบด้วย อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา ได้มี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้กลุ่มทุนมหาเศรษฐีเข้ามาเทคโอเวอร์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ขึ้นมามีปากมีเสียงจากการทำทีมของปอเซ็ตติโน่ นั่นทำให้สองทีมดังกล่าว ได้ก้าวขึ้นมาเพิ่มการแข่งขันในหัวตาราง กลายเป็น ‘ท็อป 6’ อย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา นั่นทำให้หลายคนคิดว่า นี่คงเป็นจุดที่เข้มข้นที่สุดของประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อในช่วงระยะเวลา 3-4 ฤดูกาลหลังมานี้ หลักจากที่ทีมระดับกลางเริ่มมี ‘เงิน’ และมีการบริหารที่ดี นั่นทำให้มีหลายทีมที่ขึ้นมาโลดแล่นอยู่บนหัวตาราง และในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ถึง ‘4 สโมสร’ ที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิง ‘ท็อป 6’ ในฤดูกาลหน้าของศึกพรีเมียร์ลีกกันครับ …