สตีเฟ่น เจอร์ราด อดีตกัปตันทีมจอมแกร่งของ ลิเวอร์พูล ออกมาแสดงความคิดเห็นกับข่าวลือก่อนหน้านั้น ที่เขามีรายชื่อเป็นหนึ่งในกุนซือที่มีสิทธิ์เข้าไปคุม เอฟเวอร์ตั้น หลังจากตำแหน่งกุนซือในกูดิสันพาร์คว่างลง
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาลี ตัดสินใจลงจากตำแหน่งกุนซือ เอฟเวอร์ตั้น เพื่อไปคุม เรอัล มาดริด และสุดท้ายพวกเขาแต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล เข้ามาคุมทีมแทน ซึ่งก่อนหน้านั้น พวกเขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับกุนซือหลายคน นั่นรวมไปถึง สตีเฟ่น เจอร์ราดกุนซือคนเก่งของ กลาสโว เรนเจอร์ ที่พึ่งจะพาทีมคว้าแชมป์ สกอตติช พรีเมียร์ลีก
ซึ่งกุนซือวัย 41 ปี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับ ESPN ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “ผมงงมากเลย ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าจะมีชื่อตัวเองในการรับงานชิ้นนี้ ผมไม่รู้ว่าข้อมูลนี้มันมาจากไหนนะ นักข่าวเขียนเอง หรือไปสอบถามใครมาผมก็ไม่แน่ใจ ให้ผมไปคุม เอฟเวอร์ตั้น โถๆทุกคน มันไม่มีทางและไม่มีวันเป็นไปได้เลย”
ขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตั้น ก็ได้แต่งตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือ ลิเวอร์พูล ในยุคที่ สตีเฟ่น เจอร์ราดกำลังโด่งดังเข้ามาคุมทีม
ซึ่งกัปตันหัวขิง ได้กล่าวว่า “ราฟาเอล เบนิเตซ คือเป็นสเปน เขาไม่ได้เกิดในเมืองที่เราอยู่ เขาไม่ใช่ผู้เล่นทัพหงส์แดง ที่ผ่านการวัดฝีเท้ากับฝั่งทอฟฟี่ มาเป็นเวลายาวนานถึง 20 ปีเหมือนกันกับผม ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกเดียวกันกับผม
ชีวิตของเขาก็เป็นของเขาเอง เขาสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ เขาอยากมีโอกาสกลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีก เพื่อที่จะได้มาต่อสู้กับยอดทีมในอังกฤษอีกครั้ง เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับผมเลย”
หากไม่อยากพลาด เว็บพรีวิวฟุตบอล และเรื่องราว ข่าวสารฟุตบอล ต้องติดตามเว็บไซต์ของเรา ที่ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับวงการฟุตบอลอีกมากมาย สำหรับเพื่อนๆที่ชอบเล่นเกมใน คาสิโนออนไลน์ คือคำตอบ เว็บไซน์เดิมพัน ที่เชื่อถือได้ ในเวลานี้
ความเป็นมาของ ” สตีเฟ่น เจอร์ราด ” แข้งหงส์ในสายเลือด
สตีเฟ่น เจอร์ราดผ่านการลงสนามให้ “ทัพหงส์แดง” ตั้งแต่ปี 1998-2005 แต่ก่อนหน้านั้นเขาก็อยู่ในอคาเดมี่ของสโมสรตั้งแต่ปี 1989 ตลอด 17 ปี นับจากการเซ็นสัญญาเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ เขาได้ลงสนาม 710 นัดนับรวมทุกรายการ ยิงได้ 186 ประตู แบ่งเป็นการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 504 นัด ยิงได้ 120 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนลีก 1 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย แชมป์ยูฟ่าคัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพ 3 สมัย
หลังจากแขวนสตั๊ด เขาหันมารับงานคุมทีม โดยรับงานกับสโมสร กลาสโก เรนเจอร์ เป็นงานแรกในเดือนมิถุนายน ปี 2018 และสามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกของประเทศสกอตแลนด์มาครองได้สำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา
