วิเคราะห์ : ‘4 สโมสร’ ที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิง ‘ท็อป 6’ ในฤดูกาลหน้าของศึกพรีเมียร์ลีก
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ‘ท็อป 4’ คือวลีที่เอาไว้เรียก 4 สโมสร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อันประกอบด้วย อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในเวลาต่อมา ได้มี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้กลุ่มทุนมหาเศรษฐีเข้ามาเทคโอเวอร์ และ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่ขึ้นมามีปากมีเสียงจากการทำทีมของปอเซ็ตติโน่ นั่นทำให้สองทีมดังกล่าว ได้ก้าวขึ้นมาเพิ่มการแข่งขันในหัวตาราง กลายเป็น ‘ท็อป 6’ อย่างเต็มตัวในเวลาต่อมา
นั่นทำให้หลายคนคิดว่า นี่คงเป็นจุดที่เข้มข้นที่สุดของประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกแล้ว แต่ยังไม่จบแค่นั้น เมื่อในช่วงระยะเวลา 3-4 ฤดูกาลหลังมานี้ หลักจากที่ทีมระดับกลางเริ่มมี ‘เงิน’ และมีการบริหารที่ดี นั่นทำให้มีหลายทีมที่ขึ้นมาโลดแล่นอยู่บนหัวตาราง และในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ถึง ‘4 สโมสร’ ที่จะก้าวขึ้นมาท้าชิง ‘ท็อป 6’ ในฤดูกาลหน้าของศึกพรีเมียร์ลีกกันครับ
เอฟเวอร์ตัน
หลังจากทีมได้แต่งตั้ง ‘คาร์โล อันเชล็อตติ’กุนซือมากประสบการณ์ เข้ามาแทนตำแหน่งของ ‘มาร์โก้ ซิลวา’ โรงงานท็อฟฟี่ก็กลับมาขายดีอีกครั้ง โดยกุนซือชาวอิตาลี ได้เข้ามาพร้อมกับรูปแบบการทำทีมที่มีสไตล์ และทรงอานุภาพ ซึ่งด้วยประสบการณ์ที่มากล้นในการคุมทีม อันเชล็อตติคงจะใช้เวลาไม่นานในการพาทีมกลับมาจุดที่ควรอยู่ ซึ่งนักเตะในทีมก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเลย โดยหากได้วัตถุดิบที่ลงตัวกว่านี้สัก 2-3 อย่าง ทีมระดับบิ๊กเนมในลีกคงได้สะท้านเป็นแน่
วูล์ฟแฮมป์ตัน
‘นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้’ กุนซือแดนฝอยทองของหมาป่าสีส้ม ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องหลังจากกลับพาวูล์ฟกลับมาเล่นบนลีกสูงสุด โดยได้ใช้โปรตุกีสคอนเนคชั่น ในการสอยนักเตะฝอยทองฝีเท้าดีอย่าง ราอูล ฆิมิเนซ, ดิโอโก้ โจต้า, รูเบน เนเวส, เจา มูตินโญ่ และ รุย ปาทริซิโอ เข้ามาร่วมทัพ บวกกับมันสมองของเขาแล้ว ทำให้ทีมหมาป่าสามารถต่อกรกับทีมพี่บิ๊กในพรีเมียร์ลีกได้สบาย ๆ หลายครั้บที่เรามักได้เห็นทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาทำผลงานเปรี้ยงปร้างในปีแรก แต่กลับตกชั้นในฤดูกาลต่อมา ซึ่งนั่นไม่ใช่ ‘วูล์ฟ’ ชุดนี้ และนูโน่ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาคือ ‘ของจริง’
เลสเตอร์ ซิตี้
หลังจากคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์ในปี 2016 ‘เดอะ ฟ็อกซ์’ อาจจะแผ่วลงไปบ้าง แต่ด้วยศักยภาพของทีมที่ครบเครื่องไปด้วยนักเตะที่ฝีเท้าไม่ธรรมดา และกุนซือเกมรุกอย่าง เบรเดน ร็อดเจอร์ ก็ทำให้พวกเขายังคงเป็นทีมระดับกลางที่ติดลมบนไปแล้วในขณะนี้ ซึ่งช่วงแรกของฤดูกาลนี้ พวกเขาทำผลงานได้ดีจนหลายคนมองว่ามีสิทธิ์ถึงลุ้นแชมป์ด้วยซ้ำ ก่อนที่อาการบาดเจ็บของ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ จะทำให้ทีมมีปากแผลที่กว้างจนเกินไป ซึ่งในฤดูกาลหน้าและปีต่อ ๆ ไป พวกเขาคือทีมที่ประมาทไม่ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
หลังจากมีข่าวว่ากลุ่มทุนของมกุฎราชกุมารจากราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย กำลังเดินหน้าเต็มสูบในการเทคโอเวอร์สโมสร ซึ่งหากการเปลี่ยนถ่ายสำเร็จ สาลิกาดง คงจะกลายเป็น ‘ม้ามืดตัวใหม่’ ของศึกพรีเมียร์ลีก และสร้างความหวาดหวั่นให้กับทีมหัวตารางขนลุกกันเล่น ๆ ได้อย่างแน่นอน ดังที่เคยเกิดมาแล้วกับทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ โดยในฤดูกาลนี้ ทูนอาร์มี่น่าจะต้องภาวนาให้สตีฟ บรูซ ประคองทีมเอาตัวรอดไปก่อน ก่อนที่ในช่วงปิดฤดูกาล เราน่าจะได้เห็นการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของสโมสรจากแดนอีสานก็เป็นได้
หากไม่อยากพลาดข่าวสารฟุตบอล หรือ เว็บพรีวิวฟุตบอล ต้องติดตามเว็ปไซต์ของเรายังมีเรื่องราวข่าวฟุตบอลอีกมากมาย
